Tuesday, October 7, 2014

Wi-Fi ทำไมช้าจัง?

ทำไม Wi-Fi ช้าจัง ?

เป็นคำถามที่ผมถูกถามบ่อยมาก เป็นคำถามที่ตอบยาก เพราะไม่รู้สภาพแวดล้อมที่ใช้งาน ไม่รู้สถานที่ติดตั้ง ไม่รู้ Client (มือถือ หรือ Notebook) ที่ใช้งาน ไม่รู้ Access Point (AP) เป็นอันว่าผมไม่ตอบว่าทำไมช้า แต่ขอแนะนำว่าทำยังไงให้เร็ว

Wi-Fi ที่ควรรู้


  1. Wi-Fi ใช้ความถี่วิทยุได้ 2 ย่านความถี่ 2.4 GHz (b/g/n) และย่านความถี่ 5GHz (a/n/ac) แนวโน้มต่อไป Wi-Fi จะพัฒนาบนความถี่ 5GHz
  2. ความถี่ย่าน 2.4 GHz และ 5 GHz ทุกคนสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจาก กสทช. แต่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดสำคัญ เช่น กำลังส่ง 100mW ที่ 2.4GHz และ 200mW-1000mW ที่ความถี่ 5GHz เป็นต้น
  3. ความเร็วระดับ Raw Bitrate ของ Wi-Fi ขึ้นกับการความสามารถในการ Modulation และ Coding ที่ถูกกำกับด้วย MCS Index ดูที่นี่  อุปกรณ์ Wi-Fi AP และ Client จะปรับ Index ขึ้นลงอัตโนมัติตามคุณภาพสัญญาณ แต่ที่สำคัญ Bandwidth ที่ใช้งานได้จริงต่ำกว่าค่านี้เสมอ และยังเป็นค่าสูงสุดที่ทุก Client สามารถใช้ได้รวมกัน
  4. สัญญาณรบกวนทำให้ความเร็ว Wi-Fi ลดลง หากไม่มีสัญญาณรบกวนย่าน 2.4GHz ส่งได้ไกลกว่า 5GHz แต่ในพื้นที่ชุมชนความถี่ 2.4GHz มักถูกรบกวนมากกว่าย่าน 5GHz
  5.  Wi-Fi Alliance กำหนดให้ Wi-Fi n Access Point ต้องมี MIMO เสมอ(อย่างน้อย 2 spatial stream) มักนับที่จำนวนเสา ท่านสามารถตรวจสอบใบรับรองได้จาก Wi-Fi Alliance

ทำ Wi-Fi ให้ได้คุณภาพ

ไม่อยากใช้คำว่า ความเร็ว แต่ขอใช้คำว่าคุณภาพ ที่ใช้ได้อย่างเหมาะสมไม่มีปัญหา เน้นการใช้งานในบ้าน 
  1. หากอยู่ในพื้นที่ที่มีการใช้งานจำนวนมาก ให้ใช้ความถี่ 5GHz แทน 2.4GHz วิธีนี้ง่ายสุดแต่ข้อจำกัดอยู่ที่ Client จะสามารถใช้ 5GHz ได้หรือไม่
  2. เลือก Access Point  ที่เป็น  Dual Band ใช้ได้ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz
  3. หากเป็นไปได้ ตั้งให้ AP ทำงานที่มาตรฐาน Wi-Fi n หาก AP เป็น 2.4 GHz มีข้อจำกัดที่อุปกรณ์ Wi-Fi b/g จะใช้ไม่ได้
  4. หากใช้ 2.4GHz AP ให้ตั้งค่าความกว้างของ Spectrum เป็น 20MHz เมื่ออยู่ในพื้นที่การใช้งานหนาแน่น จะได้เสถียรภาพที่ดีกว่า แต่ความเร็วลดลง
  5. หากใช้ Wi-Fi n 5GHz AP ตั้งความกว้าง Spectrum เป็น 40MHz จะได้ความเร็วสูงสุด  
  6. ให้ตั้งค่าความปลอดภัยใหม่ อย่าใช้ Default ที่มากับ AP เด็ดขาด 
  7. เลือกจุดติดตั้ง AP ที่ไม่มีสิ่งกีดขวาง ความถี่ยิ่งสูงยิ่งถูกขวางได้ง่าย ความถี่ 5GHz จึงใช้งานได้ใกล้กว่า 2.4GHz
  8. การเพิ่มกำลังส่ง หรือ การเพิ่มความไวการรับของ AP อาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีคนใช้งานจำนวนมาก
  9. ไม่ใช่แค่คุณภาพของ AP เท่านั้น คุณภาพของ Client ก็มีผลต่อความเร็วของ Wi-Fi ด้วยเช่นกัน Client แต่ละเครื่องมีความสามารถด้าน Wi-Fi แตกต่างกันและหลากหลายมาก
  10. สุดท้าย หากคุณใช้ Smartphone ที่ใช้ความถี่ย่าน 2.4GHz และ 5GHz และคุณต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตตลอดเวลา แนะนำให้เปิดการทำงานเฉพาะ 5GHz เท่านั้น 

เปรียบเทียบ 2.4GHz และ 5GHz Wi-Fi

เป็นการทดสอบง่ายๆ โดยอุปกรณ์ AP เป็น Dual Band ใช้ความถี่ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz  ใช้ SSID เดียวกัน, Hardware เดียวกัน อยู่ในพื้นที่การใช้งานหนาแน่น ทั้งหมดทำงานบนมาตรฐาน Wi-Fi n

เมื่อบังคับให้ Smartphone ทำงานบนความถี่ 5GHz ความเร็วจะเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าภายใต้สภาพแวดล้อมเดียวกัน

ทดสอบความเร็วเมื่อใช้ความถี่ 2.4GHz

บังคับให้ Wi-Fi บน smartphone ทำงานทำงานที่ 5GHz เท่านั้น



ทดสอบความเร็วเมื่อใช้ Wi-Fi ความถี่ 5GHz



มีแค่ 2.4GHz  ทั้ง AP และ Client ทำไงดี?

จะบอกว่าทำใจ ก็ดูเหมือนจะแรงไป หากท่านอยู่ในพื้นที่ที่การใช้งาน Wi-Fi ไม่หนาแน่นนักก็ไม่น่าห่วงอะไร อย่างไรก็ดีสิ่งที่ควรทำมีดังนี้
  1. ติดตั้ง AP ในตำแหน่งที่เหมาะสม ไม่ร้อนไม่ชื้น ไม่มีสิ่งกีดขวางระหว่าง AP กับ Client
  2. แก้ไขความข้อกำหนดเรื่องความปลอดภัย อย่าใช้ Default Config
  3. หลีกเลี่ยงการ Wi-Fi b  ดีที่สุดควรตั้งค่า AP ให้เป็น Wi-Fi n เพียงอย่างเดียว หรือไม่ก็ Wi-Fi g/n เท่านั้น
  4. หากต้องการความเร็วให้ใช้ Spectrum 40MHz หากต้องการเสถียรภาพให้ใช้ 20MHz
  5. หากมีกำแพงหรือผนังกั้นระหว่าง AP กับ Client เกิน 1 ชั้น ควรเพิ่ม AP แทนการเพิ่มความแรงของสัญญาณ 
  6. หากทำทุกอย่างแล้วยังไม่พอใจ แนะนำ 5GHz Wi-Fi
แต่ละคนมีความต้องการไม่เหมือนกันบางคนแค่พอใช้ได้ บางคนต้องดีเยี่ยม แต่ละที่มีสภาพแวดล้อมไม่เหมือนกัน บ้านชั้นเดียว หรืออาคารพานิชย์ ใช้แค่ web หรือ video ล้วนแต่ต้องการ network ที่ต่างกัน ที่ว่ามาน่าจะพอใช้ได้กับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ทั่วๆไป